นายวิทยากล่าวว่า สถานการณ์ยาเสพติดของไทยขณะนี้ คาดว่าทั่วประเทศมีผู้ติดยาเสพติดประมาณ 1.2ล้านคน กระทรวงสาธารณสุขจะเร่งบำบัดฟื้นฟูไม่ให้กลับไปเสพยาซ้ำ เพื่อลดจำนวนผู้ใช้ยาเสพติดให้เป็นผลสำเร็จ ให้บรรลุ“วาระแห่งชาติ” ในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลโดยเร็วที่สุด โดยในการบำบัดรักษาผู้เสพ/ติดยาเสพติดในปีนี้ ได้เน้นเชิงรุก “1อำเภอ 1 ศูนย์ฟื้นฟู” จำนวน 928 แห่ง ครอบคลุมทุกอำเภอทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้เสพ/ติดยาเสพติด ได้รับการบำบัดฟื้นฟูในศูนย์ใกล้บ้านใกล้ใจ ซึ่งขณะนี้ดำเนินการได้แล้ว 1,028 แห่ง มีทีมบำบัดประจำอำเภอ 8,514 คน จากเป้าหมายที่กำหนด 9,280 คน และอบรมอสม.เป็นอสม.เชี่ยวชาญยาเสพติด 5,000 คน จะเร่งให้ครบตามเป้าหมายภายใน 2 เดือนนี้สำหรับในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สถานการณ์ความรุนแรงของการแพร่ระบาดยาเสพติดมีสูงมาก เป็นพื้นที่ที่มีปัญหาและระดับความเสี่ยงอยู่ในเกณฑ์สูงของประเทศอันดับ 3 รองจากกทม.และปริมณฑล เยาวชนที่เสพหรือติดยาเสพติด มักไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาในสถานบำบัดของภาครัฐ ดังนั้นกระทรวงสาธารณสุข ได้ทำโครงการพัฒนามัสยิด 56 แห่ง ใน 56 อำเภอ ของ 5 จังหวัดชายแดนใต้ ให้เป็นศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดในชุมชน หรือมัสยิดศูนย์ส่องทางสู่ชีวิตใหม่ : ปูซัดเกอฮีดูปันบารู เป็นทางเลือกในการสร้างแรงจูงใจให้ชาวไทยมุสลิมที่เสพยาเสพติด เข้าสู่กระบวนการบำบัดฯ มากยิ่งขึ้น เพราะมีรูปแบบการบำบัดฟื้นฟูที่สอดคล้องกับหลักศาสนาและวิถีชุมชนของชาวไทยมุสลิม จุดแข็งของมัสยิด คือเป็นศูนย์รวมใจของชุมชน ซึ่งจะเป็นศูนย์ฟื้นฟูใกล้บ้านใกล้ใจ ครอบครัวและชุมชนจะมีส่วนร่วมสูง
ด้านน.ต.นพ.บุญเรือง ไตรเรืองวรวัฒน์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุขและผู้อำนวยการศูนย์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัญหาที่น่าห่วงในกลุ่มที่เสพติดรุนแรง โดยเฉพาะยาบ้า พบว่ามีผลในการทำลายสมองและมีภาวะแทรกซ้อนทางจิตเวชมากขึ้นในรอบ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2551- 2553 พบทั้งหมด 5,152 ราย ดังนั้นจึงต้องเร่งป้องกันโรคสมองติดยาดังกล่าว โดยการบำบัดให้เลิกเสพยาอย่างเด็ดขาด โดยตั้งแต่ตุลาคม 2554-กุมภาพันธ์ 2555 มีผู้เสพยาผ่านการบำบัดแล้ว 120,000 คน โดยกระทรวงสาธารณสุขจะติดตามดูแลผู้ผ่านการบำบัด ไมให้หวนกลับไปเสพซ้ำให้ได้ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 8
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น