|
นายแพทย์ไพจิตร วราชิต |
นาย แพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สมชัย นิจพานิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบตัวแทนพยาบาลวิชาชีพที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวของโรงพยาบาล ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศกว่า 500 คน ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี เพื่อชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหากำลังคนของกระทรวงฯและความคืบหน้าการบรรจุ ลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการพลเรือน
นาย แพทย์ไพจิตร์กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหาการเจ็บป่วยของประชาชน และจัดบริการด้านสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่
- บุคลากร
- การจัดการป้องกันและรักษาโรคเรื้อรัง
- การพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข
ที่เป็นปัญหาที่เร่งด่วนคือเรื่องบุคลากร ซึ่งเป็นกลไกหลักการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข มีหน่วยบริการสุขภาพครอบคลุมทุกพื้นที่กว่า 10,000 แห่ง ดูแลผู้ป่วย 24 ชั่วโมง มีบุคลากรทั้งหมด 340,000 คน แต่เป็นลูกจ้างชั่วคราวมากถึง 120,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพยาบาลวิชาชีพ และมีความเสี่ยงการสูญเสียออกจากระบบตลอดเวลา อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประสิทธิภาพของระบบประกันสุขภาพ ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ป่วยเข้ารับบริการตรวจรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น จาก 110 ล้านครั้ง เป็น 150 ล้านครั้งต่อปี
นาย แพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ในการแก้ไขปัญหาบุคลากรได้วางแผนไว้ 3 แนวทางประกอบด้วย
- การขอบรรจุลูกจ้างชั่วคราวที่ทำหน้าที่ให้บริการรักษาพยาบาลให้เป็นข้าราชการพลเรือน ในปี 2555 นี้ จำนวน 31,914 อัตรา ในจำนวนนี้เป็นตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ 17,000 อัตรา
- การจัดทำร่างระเบียบพนักงานกระทรวงสาธารณสุข บรรจุลูกจ้างชั่วคราวที่เหลืออีกประมาณ 90,000 อัตรา ซึ่งจะได้รับเงินเดือนสูงกว่าข้าราชการ ประมาณ 15เปอร์เซ็นต์ มีสิทธิอบรมพัฒนาความรู้ความชำนาญในสายวิชาชีพ และมีกองทุนบำเหน็จบำนาญคล้าย กบข. เมื่อเกษียณอายุจะได้รับเงินกองทุนสำหรับดำรงชีพ ขณะนี้ร่างระเบียบเรียบร้อยแล้ว
- การออกจาก ก.พ. จากการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ.
ทั้งนี้ตำแหน่งที่ขอ ก.พ. จำนวน 31,914 ตำแหน่งนั้น ได้มอบให้นายแพทย์โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะหารือกับ ก.พ. จะรู้ผลในเดือนสิงหาคม 2555 นี้ ในการบรรจุ หากได้พร้อมกันทั้งหมดตามจำนวนที่ขอไป ก็สามารถดำเนินการบรรจุได้ทันที แต่หากเป็นการทยอยบรรจุเป็นรายปีไม่พร้อมกัน ก็จะต้องจัดทำหลักเกณฑ์การบรรจุเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ในกลุ่มของพยาบาลวิชาชีพจะพิจารณาตามปีที่จบการศึกษา และปีที่เริ่มทำงานในสถานบริการสาธารณสุข ไม่เกี่ยวกับโควตาของโรงพยาบาล
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น