วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เดือนสค.55คาดรู้ผลบรรจุลูกจ้างชั่วคราวของสธ.เป็นข้าราชการ

นายแพทย์ไพจิตร วราชิต
นาย แพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์สมชัย นิจพานิช รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พบตัวแทนพยาบาลวิชาชีพที่เป็นลูกจ้างชั่วคราวของโรงพยาบาล ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศกว่า 500 คน ที่ห้องประชุมโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า จังหวัดนนทบุรี เพื่อชี้แจงแนวทางแก้ไขปัญหากำลังคนของกระทรวงฯและความคืบหน้าการบรรจุ ลูกจ้างชั่วคราวเป็นข้าราชการพลเรือน นาย แพทย์ไพจิตร์กล่าวว่า ในการแก้ไขปัญหาการเจ็บป่วยของประชาชน และจัดบริการด้านสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญ 3 เรื่อง ได้แก่
  1. บุคลากร 
  2. การจัดการป้องกันและรักษาโรคเรื้อรัง 
  3. การพัฒนาระบบบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข 
 ที่เป็นปัญหาที่เร่งด่วนคือเรื่องบุคลากร ซึ่งเป็นกลไกหลักการทำงานของกระทรวงสาธารณสุข มีหน่วยบริการสุขภาพครอบคลุมทุกพื้นที่กว่า 10,000 แห่ง ดูแลผู้ป่วย 24 ชั่วโมง มีบุคลากรทั้งหมด 340,000 คน แต่เป็นลูกจ้างชั่วคราวมากถึง 120,000 คน ส่วนใหญ่เป็นพยาบาลวิชาชีพ และมีความเสี่ยงการสูญเสียออกจากระบบตลอดเวลา อีกทั้งยังไม่สอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาประสิทธิภาพของระบบประกันสุขภาพ ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ป่วยเข้ารับบริการตรวจรักษาที่แผนกผู้ป่วยนอกเพิ่มขึ้น จาก 110 ล้านครั้ง เป็น 150 ล้านครั้งต่อปี

นาย แพทย์ไพจิตร์กล่าวต่อว่า ในการแก้ไขปัญหาบุคลากรได้วางแผนไว้ 3 แนวทางประกอบด้วย
  1. การขอบรรจุลูกจ้างชั่วคราวที่ทำหน้าที่ให้บริการรักษาพยาบาลให้เป็นข้าราชการพลเรือน ในปี 2555 นี้ จำนวน 31,914 อัตรา ในจำนวนนี้เป็นตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ 17,000 อัตรา
  2. การจัดทำร่างระเบียบพนักงานกระทรวงสาธารณสุข บรรจุลูกจ้างชั่วคราวที่เหลืออีกประมาณ 90,000 อัตรา ซึ่งจะได้รับเงินเดือนสูงกว่าข้าราชการ ประมาณ 15เปอร์เซ็นต์ มีสิทธิอบรมพัฒนาความรู้ความชำนาญในสายวิชาชีพ และมีกองทุนบำเหน็จบำนาญคล้าย กบข. เมื่อเกษียณอายุจะได้รับเงินกองทุนสำหรับดำรงชีพ ขณะนี้ร่างระเบียบเรียบร้อยแล้ว 
  3. การออกจาก ก.พ. จากการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน หรือ ก.พ.
ทั้งนี้ตำแหน่งที่ขอ ก.พ. จำนวน 31,914 ตำแหน่งนั้น ได้มอบให้นายแพทย์โสภณ เมฆธน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และคณะหารือกับ ก.พ. จะรู้ผลในเดือนสิงหาคม 2555 นี้ ในการบรรจุ หากได้พร้อมกันทั้งหมดตามจำนวนที่ขอไป ก็สามารถดำเนินการบรรจุได้ทันที แต่หากเป็นการทยอยบรรจุเป็นรายปีไม่พร้อมกัน ก็จะต้องจัดทำหลักเกณฑ์การบรรจุเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ในกลุ่มของพยาบาลวิชาชีพจะพิจารณาตามปีที่จบการศึกษา และปีที่เริ่มทำงานในสถานบริการสาธารณสุข ไม่เกี่ยวกับโควตาของโรงพยาบาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น