นพ.สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า จากการลงตรวจสอบพบว่าเป็นหญ้าชนิดเดียวกับที่เคยเป็นข่าวที่จังหวัดกำแพงเพชรเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งได้มีนักวิชาการ นักพฤกษศาสตร์ จากกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เครือข่ายจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร์ และมูลนิธิการแพทย์แผนไทยพัฒนา ได้ระบุว่าเป็น “หญ้าหยาดน้ำค้างหรือหญ้ากาบหอยตัวเมีย” ซึ่งเป็นผักพื้นบ้านพบมากในหลายจังหวัด สรรพคุณเด่นคือ ฆ่าเชื้อโรค ลดไข้ ทางภาคอีสานใช้รักษากามโรค หมอพื้นบ้านทางภาคอีสานใช้แก้กลากเกลื้อน ต้มอาบ ฆ่าแบคทีเรีย ไม่สามารถรักษาโรคมะเร็งได้ขณะที่นายแพทย์อัษฎางค์ รวยอาจิณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากดูตัวอย่างหญ้าที่เก็บมาจากพื้นที่และสอบถามผู้เชี่ยวชาญ พบว่า เป็นหญ้าหยาดน้ำค้างหรือหญ้ากาบหอยตัวเมีย ชนิดเดียวกับที่พบที่จังหวัดกำแพงเพชรและเคยเป็นข่าวเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา หญ้าชนิดนี้ไม่มีสรรพคุณในการรักษาโรคเบาหวาน โรคความดัน และโรคมะเร็ง แต่อย่างใด จากข้อมูลของกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข หญ้าหยาดน้ำค้างนี้ มีกลุ่มประเทศแถบยุโรปใช้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 12 อาทิ ประเทศอิตาลี เยอรมนี มีการนำมาทำเป็นชา เพื่อบริโภคบรรเทาอาการไอกรน หอบหืด ไอแห้ง หลอดลมอักเสบ และอาการอื่นที่เกี่ยวข้องกับหลอดลม ส่วนประเทศไทยนั้น หมอพื้นบ้านเคยมีความเชื่อว่า สามารถใช้รักษามะเร็ง และเบาหวานได้ โดยภูมิปัญญาเหล่านี้ ถือเป็นความเชื่อที่ต้องรอการพิสูจน์ ในทางคลินิก หรือศึกษาเชิงลึกไปก่อนว่าแท้จริงแล้วสามารถใช้ประโยชน์จากส่วนใดของพืช
วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2555
นายแพทย์สสจ.สระแก้ว ย้ำ "หญ้าเทวดา" รักษามะเร็งไม่ได้
น.พ.อัษฏางค์ รวยอาจิณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ให้สัมภาษณ์ถึงหญ้าเทวดา หรือ หญ้าหยาดน้ำค้าง หรือหญ้ากาบหอยตัวเมีย ว่าหลังจากมีประชาชนจำนวนมาก ไปเก็บหญ้าหยาดน้ำค้าง หรือหญ้ากาบหอยตัวเมีย กลางทุ่งนา ริมถนน สระแก้ว-เขาฉกรรจ์ หมู่ที่ ต. เขาฉกรรจ์ ไปต้มกิน โดยมีความเชื่อว่าสามารถรักษาโรคได้มากมายหลายโรคนนั้น ล่าสุด ได้รับรายงานจากโรงพยาบาลในพื้นว่า ประชาชนที่นำเอาหญ้าดังกล่าว ไปต้มน้ำกินวันละ 2-3 ลิตร ในช่วง 2 วันแรกมีอาการเบาตัว ไม่มีอาการปวดเมื่อย จึงกินติดต่อกัน พอมาวันที่ 3 เริ่มมีอาการไข้สูงมาก เวียนศรีษะ อาเจียน ท้องเสีย มีอาการถ่ายท้องมากกว่า 10 ครั้งต่อวัน จนต้องรีบส่งตัวเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จึงขอเตือนประชาชนที่นำหญ้าพวกนั้น เป็นเพียงผักพื้นบ้านประเภทหนึ่งเท่านั้น ไม่มีสรรพคุณในการรักษาโรคตามคำร่ำลือใดใดทั้งสิ้น แล้วยังอาจเกิดอันตรายได้
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น