วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สธ.คาดการณ์ จะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ปีละ 10,000 กว่าราย

วันนี้ (14 กุมภาพันธ์ 2555)ณ เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ กทม.นายแพทย์วิชัย เทียนถาวร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดงานรณรงค์ป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ เนื่องในวันวาเลนไทน์ ปี 2555 ปีนี้เน้นการรณรงค์“รักปลอดภัย ถุงยางอนามัย...เอาอยู่”เพื่อสร้างกระแสให้สังคมตื่นตัว และตระหนักว่าโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ เป็นเรื่องใกล้ตัว ทุกคนมีโอกาสติดเชื้อได้ หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน โดยในงานนี้มีการแจกเอกสารความรู้ คำแนะนำการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์
นายแพทย์วิชัย กล่าวว่า พฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัยป้องกัน ก่อให้เกิด 2 ปัญหาใหญ่ คือการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่อันตรายที่สุดคือเอดส์ ทุกคนมีโอกาสติดเชื้อเท่าๆ กัน และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรของวัยรุ่นหญิง ซึ่งกำลังเป็นปัญหาทั่วโลกและส่งผลกระทบโดยรวมต่อสังคมเศรษฐกิจและวิถีชีวิตของบุคคล โดยประเทศไทยเผชิญปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีมานานถึง 28 ปี สาเหตุหลักของการแพร่ระบาดเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกัน ซึ่งไทยชะลอผู้ติดเชื้อรายใหม่ลงได้จากปีละนับแสนรายในช่วง 10 ปีก่อน เหลือปีละ 1 หมื่นกว่ารายในปี 2554 แต่สัญญาณอันตรายที่สามารถทำนายว่าเอดส์อาจหวนกลับมาระบาดหนักในประเทศไทยได้อีก เนื่องจากพบการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว โดยเฉพาะหนองใน ซึ่งยิ่งเพิ่มโอกาสติดเอดส์มากกว่าคนปกติ 2-9 เท่าตัว
ผลสำรวจการใช้ถุงยางอนามัยนั้น จากการที่กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับองค์กรเอกชน ได้รณรงค์และสร้างทัศนคติการใช้ถุงยางอนามัยในกลุ่มหญิงบริการอย่างต่อเนื่อง ได้ผลตอบรับอย่างดีในกลุ่มของหญิงบริการทางเพศ ซึ่งมี 2 กลุ่มคือ กลุ่มหญิงบริการทางตรง เปิดเผยตัว มีอัตราการใช้สูงถึงร้อยละ 98 ส่วนกลุ่มหญิงบริการทางอ้อมที่ไม่เปิดเผยตัว มีอัตราการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเชื้อเอชไอวีสูงกว่าหญิงบริการที่เปิดเผยตัวถึง 5 เท่าตัว เนื่องจากเข้าไม่ถึงระบบบริการป้องกันดูแลรักษา และไม่มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการป้องกันตนเองในกลุ่มของผู้ชายบริการทางเพศ ใช้ถุงยางอนามัยร้อยละ 76 กลุ่มชายรักชายใช้ร้อยละ 65 และกลุ่มฉีดสารเสพติดเข้าเส้นใช้เพียงร้อยละ 49 ทั้งนี้ในกลุ่มของนักเรียนมัธยมศึกษา พบอัตราการใช้ถุงยางอนามัยเมื่อมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเพียงร้อยละ 53
นายแพทย์วิชัย กล่าวต่อว่า กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดยุทธศาสตร์ต่อสู้ปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และเอดส์ มุ่งสูเป้าหมายที่เป็นศูนย์ 3 ประการคือ 1.การไม่มีผู้ติดเชื้อเอชไอวีรายใหม่ โดยในปี 2555 ประเทศไทยใช้งบประมาณ 67 ล้านบาท ผ่านกระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และยังได้รับการสนับสนุนจากกองทุนโลก เพื่อจัดซื้อถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นแจกฟรี เพื่อใช้ป้องกันโรค 2.ไม่มีการตายเนื่องจากเอดส์ และ 3.ไม่มีการตีตราและเลือกปฏิบัติ และมีนโยบายส่งเสริมให้ประชาชนที่เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วหรือมีพฤติกรรมเสี่ยง ตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวีได้ฟรีที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง ปีละ 2 ครั้ง สำหรับเยาวชนนั้น กระทรวงสาธารณสุขและภาคีเครือข่ายได้จัดบริการที่เป็นมิตร ไว้ 282 แห่งใน 43 จังหวัด
ทางด้านนายแพทย์พรเทพ ศิริวนารังสรรค์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า จากการคาดประมาณในช่วงปี 2555-2559จะมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ปีละประมาณ 10,000 ราย โดยจำนวนผู้ติดเชื้อฯรายใหม่ จะอยู่ในกลุ่มพนักงานบริการ ชายรักชาย ผู้ฉีดยาเสพติดเข้าเส้น และคู่เพศสัมพันธ์ที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจจะไม่รู้ หรือรู้ว่าตนเองติดเชื้อฯ จะมีมากถึงร้อยละ 94 ของจำนวนผู้ติดเชื้อฯ รายใหม่ทั้งหมดในประเทศไทย ในปี 2554คาดว่ามีผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยเอดส์ประมาณ 1,148,117 ราย และยังคงมีชีวิตอยู่ 481,770 รายร้อยละ 84 ติดเชื้อจากการมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย ทั้งนี้ที่ผ่านมาพบว่าผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่เข้าถึงระบบบริการล่าช้า จากข้อมูลระบบติดตามของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพบว่า ร้อยละ 52 ของผู้รับบริการยาต้านไวรัส เป็นผู้ที่มีอาการของโรคแล้ว และมีระดับเซลล์เม็ดเลือดขาวซีดี 4 ในระดับต่ำ ซึ่งทำให้การรักษาได้ผลไม่ดีเท่าที่ควร ดังนั้นหากประชาชนได้รับการตรวจคัดกรองพบว่าติดเชื้อก่อน ก็จะได้รับการดูแลรักษา มีคุณภาพชีวิตที่ดี สามารถใช้ชีวิตในสังคมไม่ต่างจากคนปกติทั่วไป
นายแพทย์พรเทพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้กรมควบคุมโรค ได้ร่วมกับภาคีเครือข่าย เร่งดำเนินมาตรการในการป้องกันในกลุ่มเยาวชนวัยรุ่น ส่งเสริมให้มีการเรียนการสอนเรื่องเอดส์ เพศศึกษาที่รอบด้าน และสอนทักษะชีวิตทั้งในและนอกระบบการศึกษาทุกระดับ จัดระบบบริการที่เป็นมิตรแก่เยาวชน โดยบูรณาการบริการทั้งเรื่องอนามัยเจริญพันธุ์ อนามัยวัยรุ่น สุขภาวะทางเพศและเอดส์ ส่งเสริมการทำงานเอดส์ เพศภาวะ เพศวิถี อนามัยเจริญพันธุ์และอนามัยวัยรุ่นควบคู่กับการสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายเยาวชนมีการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายแกนนำเยาวชน ป้องกันเอดส์ในสถานศึกษา และส่งเสริมการเข้าถึงถุงยางอนามัยและสารหล่อลื่นซึ่งเมื่อเยาวชนใช้ถุงยางอนามัยกันมากขึ้น มั่นใจว่าปัญหาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เอดส์ และการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร จะลดลงแน่นอน
สำหรับ การรณรงค์“รักปลอดภัย ถุงยางอนามัย...เอาอยู่” ในปีนี้ จัดขึ้นพร้อมกันทั่วประเทศ ในส่วนกลางจัดที่ลานกิจกรรม เอ็มบีเค อเวนิว ชั้น 1 ศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ กิจกรรมประกอบด้วยขบวนเดินรณรงค์จากศูนย์การค้าเอ็มบีเค เซ็นเตอร์ ไปยังสยามสแควร์ มีการจัดบูธนิทรรศการให้ความรู้เรื่องโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เอดส์ อนามัยการเจริญพันธุ์ และแอลกอฮอล์ รวมทั้งเกมส์ส่งเสริมความรู้ การแสดงก่อนบ่ายคลายเครียด และมินิคอนเสิร์ตโดยกลุ่มศิลปิน เนโกะ จั๊มพ์ และสินเจริญ บราเธอร์ส

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น