“หมอสุรวิทย์” เผยสธ.ควบคุมโรคมือเท้าปากได้

นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์

นายแพทย์สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับความคืบหน้าของสถานการณ์โรคมือเท้าปากว่า ในสัปดาห์นี้จำนวนผู้ป่วยลดลงจากสัปดาห์ที่แล้ว และประชาชนให้ความสำคัญกับโรคมือเท้าปากมากขึ้น มีการรณรงค์ทำความสะอาด ดูแลล้างมือ และมีการปิดสถานศึกษาต่างๆ และศูนย์เด็กเล็กชั่วคราว เพื่อทำความสะอาด ตัดตอนการแพร่กระจายเชื้อ บางโรงเรียนที่แม้จะยังไม่พบโรคนี้ แต่ผู้ปกครองก็ไม่ให้เด็กไปโรงเรียน ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อลดลง จากสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้นเกือบ 2,000 ราย แต่สัปดาห์นี้ลดลงเหลือประมาณ 1,000 รายเท่านั้น ซึ่งถือว่าควบคุมได้ เชื่อว่าภายในประมาณ 4-6 สัปดาห์ สถานการณ์จะคลี่คลายขึ้น

นายแพทย์สุรวิทย์ กล่าวต่อว่า กรณีมีผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ ยังไม่สามารถพูดได้ชัดเจนว่ามาจากโรคนี้หรือไม่ ต้องรอคำวินิจฉัยสรุปจากผู้เชี่ยวชาญ ระบบการรายงานของไทยนั้น เป็นระบบที่มาตรฐาน โดยการเสียชีวิตนี้อาจจะเกิดจากโรคอื่นหรือโรคมือเท้าปากก็ได้ อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะเป็นเชื้อที่อ่อน แต่ถ้าเด็กมีความบกพร่องในเรื่องภูมิคุ้มกัน หรือร่างกายอ่อนแอ ก็อาจทำให้อาการรุนแรง และเป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้   สำหรับสายพันธุ์เชื้อเอ็นเทอโรไวรัส 71 ที่เราตรวจพบในไทยขณะนี้คือ บี 5   ซึ่งจากการติดตามการเปลี่ยนแปลงลักษณะการติดเชื้อต่างๆในประเทศไทย ขณะนี้ยังถือว่าไม่มีการกลายพันธุ์ 

“เชื้อเอ็นเทอโรไวรัส บี 5 เป็นเชื้อที่พบในประเทศไทย และเด็กที่ป่วยในบ้านเรา ก็มีสายพันธุ์ เอ็นเทอโรไวรัส 71 บี 5 เป็นจำนวนมาก รองจากค็อกซากี่ เอ 6 และ เอ 16 เพียงแต่ว่าการเสียชีวิตนั้น ถ้าเกิดจากเชื้อตัวนี้ ก็ต้องดูว่าจะเกิดจากโรคแทรกซ้อนหรือมีอาการผิดปกติอย่างอื่นร่วมด้วยหรือไม่อย่างไร เพราะปกติทั่วไปสายพันธุ์บี 5 มักจะไม่รุนแรง มักจะไม่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต  ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการควบคุมอยู่แล้ว   ขอให้ประชาชนระมัดระวัง และปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อป้องกันการติดเชื้อ  โดยโรคมือเท้าปากนี้จะพบมากในช่วงฤดูฝน อากาศมีความชื้น และเด็กเปิดเรียนใหม่ ซึ่งจากอดีตที่ผ่านมา เราพบว่าโรคระบาดเป็นระยะๆเท่านั้น ไม่ได้ระบาดตลอด” นายแพทย์สุรวิทย์กล่าว

นายแพทย์สุรวิทย์กล่าวต่อไปว่า ส่วนกรณีเชื้อที่พบในกัมพูชา เชื่อว่าไม่มีการแพร่ระบาดเข้ามาในไทย เชื้อที่พบในบ้านเรา เป็นเชื้อประจำถิ่นภายในประเทศเราเอง ซึ่งพบได้ทุกภาค ทุกจังหวัด แต่พบไม่ตลอดทั้งปี จะพบมากในช่วงฤดูฝนเท่านั้น   โดยสายพันธุ์ที่เป็นต้นเหตุการเสียชีวิตของเด็กกัมพูชา เป็นเชื้อเอ็นเทอโรไวรัสสายพันธุ์ ซี 4   ไม่ใช่สายพันธุ์ บี 5 

ทั้งนี้ในกรณีของเด็กวัย 2 ขวบที่เสียชีวิต กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้ปิดข่าวแต่อย่างใด และได้พูดมาตั้งแต่แรกว่าผลการตรวจอุจจาระในวันที่ 16 กรกฎาคม 2555 ไม่พบเชื้อ และในวันที่ 17 กรกฎาคม 2555 ตรวจพบเชื้อในลำคอ เพียงแต่ว่าเรายังไม่กล้าพูดว่าเสียชีวิตจากสาเหตุนี้หรือเหตุอื่น