รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินหน้าส่งเสริมการใช้การแพทย์แผนไทย สมุนไพรไทย โดยให้โรงพยาบาลในสังกัดทุกระดับ เพิ่มบริการตรวจรักษาผู้ป่วยนอกด้วยแพทย์แผนไทยและใช้ยาสมุนไพร เริ่มในปีนี้ ให้ได้ร้อยละ 10 ของผู้รับบริการทั้งหมด และเพิ่มเป็นร้อยละ 20 ในปีหน้า โดยในปี 2555 จะเพิ่มยาสมุนไพรเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติอีก 4 รายการ และให้ได้ 100 รายการภายในปี 2558 เพื่อใช้แทนยาแผนปัจจุบัน
เช้าวันนี้ (18 พฤษภาคม 2555) ที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร จ.พระนครศรีอยุธยา นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดงานรวมพลังการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านใน 16 จังหวัดภาคกลาง ประจำปี 2555 จัดโดย กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก เพื่อเผยแพร่ภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทยให้เป็นที่ยอมรับของประชาชนและหันมาใช้ภูมิปัญญาไทย เพื่อนำมาใช้ดูแลสุขภาพ ทั้งที่ไม่เจ็บป่วยและเจ็บป่วยแล้ว ภายในงานมีกิจกรรมมากมายเช่นอาหารไทยเพื่อสุขภาพสมุนไพรใส่ใจโรคเรื้อรัง นาฬิกาชีวิต การดูแลหญิงหลังคลอดด้วยทฤษฎีการแพทย์แผนไทย การจับเหล็กแดงรักษาโรคอัมพาตโดยหมอพื้นบ้าน เผยแพร่ตำรับยารักษาโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต ของวัดปากคลองมะขามเฒ่า ว่านพญางูขาวรักษางูพิษกัด เป็นต้น
นายวิทยากล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการสนองนโยบายนายกรัฐมนตรีในการลดค่าใช้จ่ายยารักษาโรค ซึ่งไทยมีมูลค่าการนำเข้ายาแผนปัจจุบันสูงถึงปีละกว่า 130,000 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 35 ของค่าใช้จ่ายสุขภาพทั้งหมด ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าประเทศพัฒนาแล้ว ที่ใช้เพียงร้อยละ 20 เท่านั้น โดยกระทรวงสาธารณสุขมีนโยบายส่งเสริมให้โรงพยาบาลในสังกัดทั่วประเทศทุกระดับกว่า 10,000 แห่ง ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยนอกด้วยแพทย์แผนไทยและใช้ยาสมุนไพรแทนยาแผนปัจจุบันอย่างน้อย 20 รายการ ซึ่งขณะนี้ได้บรรจุในบัญชียาหลักแห่งชาติ พ.ศ.2554 แล้ว 71 รายการ ในระยะเริ่มต้นในปี 2555 นี้ จะให้บริการผู้ป่วยนอกให้ได้ร้อยละ 10 ของผู้ป่วยทั้งหมดที่ใช้บริการ และเพิ่มเป็นร้อยละ 20 ในปีหน้า
นายวิทยากล่าวต่อว่า ขณะนี้ได้มอบให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยฯ ศึกษาวิจัยยาสมุนไพรอีก 4 รายการเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติภายในปี 2555 นี้ และจะเพิ่มปีละประมาณ 5-10 รายการ โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มให้ได้ทั้งหมด 100 รายการภายในปี 2558 ซึ่งจะทำให้ประเทศไทยและคนไทยมียาสมุนไพรที่ได้มาตรฐานและผ่านการศึกษาวิจัยด้านคุณภาพและความปลอดภัย ใช้รักษาอาการเจ็บป่วยหลากหลายทดแทนยาแผนปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของบริการประชาชนด้านการแพทย์แผนไทยมีนโยบายให้โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน เป็นศูนย์บริการด้านการแพทย์แผนไทย ซึ่งจะมีนักการแพทย์แผนไทยประจำการมีรายการยาสมุนไพรใช้มากกว่า 20 รายการ มีบริการรักษาด้วยการนวด อบ ประคบ บรรเทาอาการปวดเมื่อย และดูแลหญิงหลังคลอดด้วยวิธีการทับหม้อเกลือ ซึ่งผ่านการศึกษาวิจัยแล้วได้ผลทำให้มดลูกเข้าอู่เร็ว และ สปสช.ได้บรรจุเป็นสิทธิประโยชน์ของโครงการบัตรทองในอัตราไม่เกิน 2,500 บาท/1 ชุดบริการ ( 5 ครั้ง) เรียบร้อยแล้ว ในปี 2555 นี้และดำเนินการแล้วในโรงพยาบาล 200 แห่ง มีเป้าหมายจะเพิ่มให้ได้ 800 แห่งภายในปี 2558
ทางด้าน นายแพทย์สุพรรณ ศรีธรรมมา อธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือกกล่าวว่า ในงานรวมพลังการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านที่วัดพนัญเชิงวรวิหาร ในวันที่ 18-19 พฤษภาคม 2555 นี้ มีการนำภูมิปัญญาแพทย์แผนไทยจาก 16 จังหวัดภาคกลาง มาเผยแพร่ให้ประชาชนได้สัมผัสจริง เช่น จ.พระนครศรีอยุธยา เรื่องอาหารไทยเพื่อสุขภาพ สมุนไพรใส่ใจโรคเรื้อรัง นาฬิกาชีวิต ธาตุเจ้าเรือน การดูแลหญิงหลังคลอดด้วยทฤษฎีการแพทย์แผนไทย จ.ลพบุรี เรื่องการจับเหล็กแดงโดยหมอพื้นบ้าน เพื่อบรรเทาอาการปวดเมื่อย จ.ชัยนาท นำเรื่องตำรับยารักษาโรคอัมพฤกษ์ อัมพาต จากวัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.เพชรบุรี เรื่องว่านพญางูขาวรักษางูพิษกัด และ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เรื่อง สมุนไพรอมบ้วนปากช่วยระงับกลิ่นปาก เป็นต้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น