นายแพทย์โสภณ เมฆธน |
นายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การแพร่เชื้อโรคไข้เลือดออก ที่พบส่วนใหญ่กว่าร้อยละ99 เกิดมาจากยุงลายกัดผู้ป่วย และที่เหลือเกิดจากยุงที่มีเชื้อไข้เลือดออกอยู่แล้ว จาก การวิเคราะห์ข้อมูลสถานการณ์โรคไข้เลือดออกในปี 2556 พบว่า กลุ่มป่วยเป็นไข้เลือดออกมากที่สุดคือวัยรุ่นอายุ 15-24 ปีคิดเป็นร้อยละ 29 รองลงมาคือในกลุ่มเด็กอายุ 10-14 ปีร้อยละ 21 กลุ่มเด็กอายุ 5-9 ปีร้อยละ 14 กลุ่มผู้ใหญ่อายุ 25-34 ปีร้อยละ 13 ปี นี้วัยรุ่นก็ยังเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงก็เช่นกัน เนื่องจากมีวิถีชีวิตที่มีความเสี่ยงจะโดนยุงลายกัดเพิ่มมากขึ้น เช่น การทำกิจกรรมนอกห้องเรียน การรวมกลุ่มเล่นเกมในร้านคอมพิวเตอร์ หรืออยู่ในสถานที่บันเทิงเป็นเวลานาน เป็นต้น ใน ปีนี้กรมควบคุมโรค จึงได้ตั้งเป้าหมายการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายในสถานที่สำคัญ 5 แห่ง หรือ 5 ร. คือ โรงเรือน โรงเรียน โรงพยาบาล โรงแรม/โรงงาน โรงธรรม วัด/มัสยิด/โบสถ์ และพัฒนาศักยภาพทีมสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว หรือ เอสอาร์อาร์ที (SRRT) ทุกระดับ เพื่อลงควบคุมโรคในพื้นที่ที่มีรายงานพบผู้ป่วยไข้เลือดออกภายใน 24 ชั่วโมง และทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย พ่นสารเคมีฆ่ายุงตัวเต็มวัยภายในบ้านและรอบบ้านผู้ป่วยรัศมี 100 เมตร และพ่นซ้ำใน 7 วัน เพื่อไม่ให้ยุงหลงเหลืออยู่
“เรื่องที่น่าห่วงขณะนี้ พบว่าสภาพของสังคมเมืองเติบโตอย่างรวดเร็ว มีบ้านจัดสรร ทาวน์เฮาส์ คอนโดมีเนียมเพิ่มขึ้นจำนวนมาก บ้าน สมัยใหม่นี้ มักจะมีมุ้งลวดป้องกันยุงมิดชิด มักไม่มีภาชนะเช่นโอ่งน้ำ เก็บน้ำในบ้าน แต่ยังลายสามารถพัฒนาตัว และหาแหล่งวางไข่ได้ ที่ตรวจพบแล้วคือวางไขในคอห่าน ซิงค์น้ำหรืออ่างล้างมือ ล้างหน้าทั่ว ๆ ไปได้ ฉะนั้นหากพบมียุงบินในบ้าน เป็น สัญญาณเตือนว่ามีแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายอยู่ในบ้านแน่นอน และขอให้นึกถึงซิงค์น้ำ และรีบกำจัดยุงลาย โดยต้มน้ำให้เดือดและเทราดลงในซิงค์น้ำทุก 5-7 วัน เพื่อ ทำลายไข่ยุง ขณะเดียวกันยังพบไข่ยุงลายในจานรองน้ำของเครื่องทำน้ำเย็นชนิดคว่ำถัง ซึ่งนิยมตามโรงเรียน โรงอาหารต่างๆ ไข่ยุงลายยังอึด สามารถทนน้ำเย็น ทนหิมะได้เป็นเวลานานไข่จะสลบชั่วคราว หากอุณหภูมิเปลี่ยน จะกลายเป็นตัวยุงได้เช่นกัน ” นายแพทย์โสภณกล่าว
นายแพทย์โสภณกล่าวต่อว่า ขณะนี้ ยังไม่มีวัคซีนป้องกันโรคไข้เลือดออก วิธีที่ดีที่สุดคือการป้องกันไม่ให้ป่วย ไม่ให้ตาย โดยให้ประชาชนทุกคน ทุกครัวเรือน ช่วยกันกำจัดลูกน้ำยุงลายที่บ้าน ป้องกันโรคไข้เลือดออกได้ด้วยตัวเอง โดยเฉพาะลูกน้ำ เจอปุ๊บ ต้องกำจัดปั๊บ ไม่รีรอปล่อยจนกลายเป็นตัวยุง ขัดล้างภาชนะนั้นเพื่อให้ไข่ยุงที่ติดอยู่หมดไป และดูแลบ้านเรือนไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของยุงลาย ติดมุ้งลวดที่ห้องนอน และป้องกันตัวเองไม่ให้ยุงกัด โดยสวมใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ใช้ยาทากันยุง นอนในมุ้ง
หากป่วย มี
อาการไข้สูงลอยทั้งผู้ใหญ่และเด็ก กินยาพาราเซตามอลลดไข้แล้ว ไข้ยังไม่ลด
ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูกซึ่งต่างจากการเป็นหวัดที่จะมีน้ำมูกร่วมด้วย ร่วมกับคลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อาจมีจุดเลือดออกที่ผิวหนัง หรือ
เป็นทั้ง 2 โรคร่วมกัน ขอให้รีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจรักษา
และหากเป็นไข้เลือดออกแล้ว ช่วงระยะไข้ลดลงในวันที่ 3-4 ของการป่วย
หากผู้ป่วยมีอาการซึมลง กินอาหารดื่มน้ำไม่ได้ อาจ
เข้าสู่ภาวะช็อก ขอให้รีบกลับไปพบแพทย์เพื่อรักษาอย่างทันท่วงที
ป้องกันการเสียชีวิต
ประชาชนที่มีความสนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักโรคติดต่อนำโดย
แมลง โทร 0 2590 3104-05, 0 2590 3132-33 หรือ สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร.
1422” นายแพทย์โสภณ กล่าวเพิ่มเติม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น