วันพุธที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2556

พัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านรองรับAEC

นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว 
นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังเปิดงาน  มหกรรมรวมพลังการแพทย์แผนไทยและการแพทย์พื้นบ้านประจำปี 2556 ของ 16 จังหวัดภาคกลาง ซึ่งจัดที่ศาลา 60 พรรษามหาราช เทศบาลเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันที่ 4- 6 มิถุนายน 2556 ว่า ในปีนี้เน้นเรื่องภูมิปัญญาแพทย์แผนไทย นำเศรษฐกิจไทย ก้าวไกลสู่อาเซียน เพื่อเผยแพร่ภูมิปัญญาไทยทั้งเรื่องการแพทย์แผนไทยและสมุนไพรไทย เพื่อใช้แก้ไขปัญหาการเจ็บป่วย และบำรุง ส่งเสริมให้มีสุขภาพดี


นายแพทย์ชลน่านกล่าวต่อว่า ในปี พ.ศ.2558 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน เชื่อว่าหลังจากนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการสาธารณสุข คาดการณ์ว่าความต้องการแพทย์แผนไทยฯจะมีแนวโน้มมากขึ้น  กระทรวงฯ ได้วางแผนรองรับไว้ 3 เรื่องหลักๆเพื่อให้มีศักยภาพการแข่งขันระดับนานาชาติ ได้แก่
  1. เพิ่มบุคลากรด้านแพทย์แผนไทย ให้มีจำนวนเพียงพอ ในเบื้องต้นจะให้ประจำการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต. ทุกแห่ง ซึ่งเป็นบริการด่านหน้าและอยู่ใกล้ชิดชุมชนที่สุด ขณะนี้ได้ให้กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยเร่งสำรวจความเหมาะสมของอัตรากำลัง ตั้งเป้าภายในปี 2558 รพ.สต.ทุกแห่ง ต้องมีบริการแพทย์แผนไทยขั้นพื้นฐาน คือใช้ยาสมุนไพรพื้นฐานและบริการนวดไทยบรรเทาปวดเมื่อย  คลายเครียด
  2. การพัฒนาศักยภาพสมุนไพรหรือยาไทย เพิ่มรายการยาสมุนไพรเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติใช้ในสถานพยาบาลภาครัฐทั่วประเทศ จาก 71 เป็น 87 รายการ รวมทั้งพัฒนาสมุนไพร อาทิ ไพล บัวบก กระชายดำ กวาวเครือขาว และลูกประคบ ให้เป็นสมุนไพรยอดนิยม มาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สร้างจุดแข็งสินค้าและบริการการแพทย์แผนไทย เตรียมพร้อมต่อการเปิดเขตเสรีทางการค้าอาเซียนหรืออาฟตา ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์เชิงรุกของประเทศสมาชิก ร่วมกันสร้างพลังต่อรองกับเขตประชาคมเศรษฐกิจอื่นๆ โดยเฉพาะตลาดยาสมุนไพร เครื่องสำอาง อาหารและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ของไทย เพื่อให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น คาดการณ์ว่าในช่วงปีดังกล่าว ไทยจะสามารถดึงการค้าอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพร เข้าประเทศได้มหาศาล 
  3. การพัฒนาบริการการแพทย์แผนไทย โดยบูรณาการร่วมกับภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่นโครงการล่องแพที่ จ.กาญจนบุรี มีบริการนวดแผนไทยขนานแท้ มีอาหารพื้นบ้านไทยเพื่อสุขภาพ เบ็ดเสร็จในแพ จะหารือผู้ที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและผู้ประกอบการแพท่องเที่ยวต่อไป นายแพทย์ชลน่านกล่าว    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น